กว่าจะมาเป็นโหร
...ผมชื่อ ธนเทพ ปฏิพิมพาคมเกิดเมื่อ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๕ ...
...บิดาชื่อ พล.ต.ท.ชัยยงค์ ปฏิพิมพาคม...
...มารดาชื่อ นางอุษา ศรีดามา...
...ครอบครัวของผมมีทั้งหมด ๕ คน...
...คนที่ ๑. นางนงเยาว์ ทรัพย์ประดิษฐ์
๒. นางพิมประไพ จันทร์สืบ
๓. นายมงคล ปฏิพิมพาคม
๔. นางแน่งน้อย ศรีดามา
๕. อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม
ผมเป็นลูกชายคนสุดท้อง...ในตระกูล ได้รับการตามใจมาแต่เยาว์วัย จนน่าที่จะเสียผู้เสียคนแต่ด้วยเมื่ออายุ
ได้ ๕ ขวบ... บิดาได้อบรมสั่งสอนโดยการ ให้ลูกๆทุกคนก่อนที่จะเข้านอนให้ไปรวมตัวกันที่ห้องพระ...ในนั้นจะมีหนังสือสวดมนต์อยู่ด้วย...คุณพ่อก็จะบอกให้ทุกคนสวดมนต์พร้อมกันหลังจากสวดมนต์เสร็จสรรพ ก็จะให้ทุกคนนั่งทำสมาธิกันประมาณ ๕-๑๐ นาที...
ให้หลับตา สำรวมจิตนึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ตั้ง แล้วให้ภาวนา พุทโธ ตามลมหายใจ
เข้า-ออก...ซึ่งพฤติกรรมทั้งหลายนี้ ให้ทำทุกค่ำคืนเป็นนิจศีล...
...ผมจึงคิดว่า ด้วยกุศลบุญที่ได้ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้ผมไม่ได้ตกอยู่ในอบายมุขใดๆ...มาจนตราบเท่าทุกวันนี้...
ในวัยเด็ก ผมเติบโตมาท่ามกลางความอบอุ่นจาก บิดาและมารดา ซึ่งคอยดูแลเอาใจใส่ผมเป็นอย่างดี
ตั้งแต่เยาว์วัย ...
...ตราบจนกระทั่งแตกเนื้อหนุ่ม...
...ในช่วงนี้จะเป็นประวัติของผมที่ว่า...กว่าจะมาเป็นโหรให้ทุกท่านได้รับฟัง ณ.บัดนี้...
...ในตอนที่ ๑. เรื่อง การจากไปของบิดาข้าพเจ้า...พล.ต.ท.ชัยยงค์ ปฏิพิมพาคม...
ตอนปี ๒๕๓๗ ปลายๆปี...ขณะนั้น ผมยังเล่นดนตรีอยู่เป็นประจำ...เกิดความรู้สึกอยากศึกษา
เกี่ยวกับการดูดวง...ในตอนแรกๆก็หัดดูไพ่ยิปซี ซึ่งตอนนั้นกำลังเป็นที่นิยมกันผมก็ซื้อหนังสือของ
อ.ต่างๆที่เกื่ยวกับไพ่ยิปซี..มาอ่านอยู่หลายเล่มด้วยกัน...ดูไปดูมายังรู้สึกสับสนอยู่มาก...ก็เลยไป
หาซื้อตำรากร๊าฟ เลข ๗ตัวฯลฯ มาลองศึกษาดู...หัดทายเพื่อนๆและญาติ...ไปเรื่อยก็ยังไม่ประสพ
กับความสำเร็จใดๆ...ทายถูกบ้าง ผิดบ้าง...
...จนรู้สึกเริ่ม...ท้อแท้...หาความแน่นอนอะไรจากตัวเองไม่ได้...จนค่อยๆรามือลงไป...ในที่สุด...
จนกระทั่งมาถึงปี ๒๕๓๘...ระยะนั้นคุณพ่อผมอาการไม่ดีต้องนอนอยู่ที่ ร.พ. ตำรวจผมก็ไปเยี่ยม
ท่านอยู่เป็นประจำ...บางทีก็ถามคุณพ่อเกี่ยวกับเรื่องโหราศาสตร์...ซึ่งท่านเคยศึกษามาอยู่ก่อนแล้ว
แต่ท่านก็บอกว่า...ตอนนี้ท่านจำอะไรไม่ได้แล้วเกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์...มันลืมไปแล้วหมดสิ้น...
ผมก็เข้าใจท่านไม่ได้ถามท่านอีกต่อไป...ตัวคุณพ่อผมเองเดิมทีสามารถทายดวงชาตาได้อยู่ในขั้น
ไม่ธรรมดาเพราะเคยเห็นบรรดาญาติๆ และมิตรสหาย...มาให้ท่านดูดวงกันอยู่เป็นประจำ...
ในเดือนมีนาคม ๒๕๓๘ คุณพ่ออาการไม่ค่อยดี...มีปัญหาหมอลงความเห็นว่าควรจะต้องผ่าตัด
ซึ่งจะต้องปรึกษากับบรรดาญาติก่อน...ตอนนั้นผมก็คิดอะไรไม่ออก...พอคิดออกมาได้ก็รีบไปที่หน้า
วัดบวรทันที...ในสมองสั่งงานว่าต้องไปดูดวงให้คุณพ่อจะดีกว่าที่หน้าวัดบวรจะมีชมรมโหราศาสตร์
อยู่มี...อ.หมอดูอยู่หลากหลาย...เมื่อไปถึงที่นั่นผมก็ตรงไปหา อ.ผู้หนึ่งบอก วัน เดือน ปีเกิดและชื่อ
ของคุณพ่อให้ อ.ดูดวง...ให้...พอเห็นชื่อคุณพ่อ อ.ท่านนั้นก็จำได้...หลังจากตรวจดวงชาตาคุณพ่อ
เสร็จก็กล่าวว่า "ท่านอายุยืนผ่าตัดได้...ไม่มีปัญหาอะไรครับ"ผมได้ฟัง...ใจก็มาเป็นกองรู้สึกโล่งใจ
อย่างบอกไม่ถูก...
พอกลับมาถึงบ้าน...คุณแม่และพี่ๆของผมได้ลงความเห็นกันแล้วว่าต้องยอมให้หมอ...ผ่าตัด
คุณพ่อในตอนนั้น...ผมก็เสริมไปอีกว่า ไปดูดวงมาแล้ว...อ.หมอ บอกว่าผ่าตัดได้เลย ไม่มีปัญหา...
ทุกคนก็มีสีหน้าดูดีขึ้น...คือเลิกเครียดกัน...หลังจากวันนั้น...ในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๓๘ได้พาคุณพ่อ
ไปผ่าตัดที่ ร.พ.กรุงเทพพอเช้าวันที่ ๒ หมอก็ลงมือผ่าตัดคุณพ่อ...เสร็จสรรพหลังผ่าตัด มีคุณหมอ
ท่านหนึ่งเดินมาเยี่ยมคุณพ่อ...แล้วกล่าวว่า"ผลการผ่าตัดครั้งนี้ เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งครับ"
ทุกคนได้ฟังแล้ว...ก็รู้สึกคลายใจกันไปทุกคน...แต่แล้ว...อย่างไม่คาดฝัน ในตอนเที่ยงๆของวันที่
๔ มีนาคม ๒๕๓๘ พี่สาวได้โทรศัพท์มาหาผมแล้วบอกว่า"เอ็ก คุณพ่อ อาการไม่ดีรีบมา ร.พ. ด่วน"
เท่านั้น ผมก็รีบไป ร.พ. อย่างรวดเร็ว...ทันที...
ที่หน้าเตียงคุณพ่อ...ห้อมล้อมไปด้วยครอบครัวของผม...พวกเราเวียนกันเข้าออกดูอาการของ...
คุณพ่อ...จนกระทั่งถึงเวลา ๑๙.๐๕ น.คุณหมอได้เข้ามาถามบรรดาญาติๆว่าจะให้ดึงสายยางออกจาก
ตัวคุณพ่อไหม? พวกเราก็บอกไปว่า...ไม่ต้อง...ให้ท่านจากไปโดยตามธรรมชาติ...ดีกว่าหลังจากนั้น
พวกเราก็ยืนห้อมล้อมรอดูการจากไปของท่านอย่างสงบ...พอถึงเวลา๑๙.๔๕ น.คุณพ่อก็ได้จากพวก
เราไปอย่างไม่มีวันกลับ...จะไม่ได้พบพานกันอีกตลอดกาล...ในชาตินี้...
...ติดตาม กว่าจะมาเป็นโหรตอน ๒...