Home
ส.ค.ส. ๒๕๒๒
...จากบทความของบิดาข้าพเจ้า...พล.ต.ท.ชัยยงค์ ปฎิพิมพาคม...
การแก้ไขในเรื่องจิตฝ่อหรือจิตแฟบนี้ก็มีอยู่วิธีหนึ่งก็คือ...บวชเป็นพระสงฆ์เพื่อให้ความสุขสงบร่มเย็นของกาสาวพัสตร์ช่วยคุ้มครองให้จิตใจได้มีความสะอาดบริสุทธิ์เกิดขึ้นจากรสพระธรรมคำสั่งสอนของ...พระพุทธองค์ในบั้นปลายของชีวิต...ถ้าหากว่าสามารถปฎิบัติได้ถึงขนาดแล้ว...อาจจะได้พบกับความสุขและความสงบอย่างชนิดที่ไม่ได้พบพานมาก่อน...วิธีนี้จะเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุดที่จะป้องกันเรื่อง...โรคฝ่อ...โรคแฟบได้อย่างน่าอัศจรรย์เป็นที่สุด...แต่ก็เป็นการยากอยู่เหมือนกัน เพราะมีอายุมากแล้ว...
พอถึงปีใหม่ พ.ศ.๒๕๒๒...พึ่งครบเกษียณอายุมาได้ ๓ เดือนเท่านั้น...เรียกว่าพึ่งปลดเกษียณออกมาได้
หมาดๆอยู่ [คือยังเปียกอยู่...ยังไม่แห้งทีเดียวนัก]...มี ส.ค.ส. ส่งมาจากผู้ที่รู้จักบ้างพอประมาณ...ผมก็อยาก
จะเขียนส่งไปบ้าง...กำลังคิดว่าจะเขียนอะไรดี...ก็พอดีเกิดนึกขึ้นได้ว่า...สมัยหนึ่งเคยไปนมัสการ...
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมที่นครปฐม...ได้เห็นป้ายเขียนไว้ข้างๆตัวท่านว่า...
...รู้จักพอ ก่อสุข ทุกสถาน...
...ผมก็เลยเอากลอนบทนั้นมาตั้งต้น...แล้วต่อเติมไปอีกให้ครบลักษณะของกลอน ดังนี้...
รู้จักพอ ก่อสุข ทุกสถาน
รู้จักพอ ต่อการ แสวงหา
รู้จักพอ ก่อสุข ทุกเวลา
รู้จักพอ พระท่านว่า นั่นแหละดี
จากนั้นผมก็ส่ง ส.ค.ส.ปี พ.ศ.๒๕๒๒...ด้วยคำกลอนที่แต่งนี้ไปยังบุคคลต่างๆที่ผมรู้จัก...
ผมเองเคยได้รับคำสั่งสอนจากผู้ใหญ่ที่นับถือหรือจากผู้ทรงศีลและจากการอ่านหนังสือธรรมะ
หลายๆเล่ม ก็พอจะรวม...ใจความได้ว่าในโลกนี้สรรพสิ่งทุกๆอย่าง รวมทั้งบรรดาสัตว์โลกที่มีชีวิต
เช่น มนุษย์เป็นต้น...ต่างไ่ม่รู้จักคำว่า "พอ" นี้คืออะไรกัน...เป็นส่วนมาก...
โลกของเราที่เกิดวุ่นวายกัน...เกิดรบราฆ่าฟันในทุกวันนี้ก็มีสาเหตุมาจากการไม่พอนั่นเอง...
ถ้ามนุษย์เรารู้จักคำว่า "พอ" เสียอย่างหนึ่ง...โลกเราก็จะอยู่กันด้วยความสงบสันติ ผู้ที่ได้รับบัตร
ส.ค.ส.ของผมนี้...ถ้าหากไม่คิดเห็นแก่ตัวจนเกินไปแล้วก็อาจจะว่าเป็นการเตือนกันไว้...
... อย่าไปหลงคิดสะสมอะไรให้มากไปเลย...
มนุษย์เรานั้นเมื่อยิ่งได้มาเท่าไรก็ไม่พอ...พยายามเสาะแสวงหาเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาจจะถือว่าเป็นความ
สุขชนิดหนึ่งก็เป็นได้...แต่ความจริงแล้วมนุษย์ทุกคนก็รู้แก่ใจแล้วว่า...เกิดมาแล้วก็ต้องตายกันทุกคนจะตายช้า
หรือตายเร็ว...ก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรมที่ทำมา...ทุกคนที่เริ่มคลอดออกมาร้อง อุแว้ๆ นั้น...กรรมเป็นผู้พิพากษามา
เรียบร้อยแล้วว่าจะต้องถูก...ประหารเมื่อไร...ที่ไหนและเวลาใด...
แต่ตัวเราเองกลับไม่รู้อะไรเลย...บางคนดูพฤติกรรมแล้วก็น่าสงสาร...อุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจสร้างไว้...สะสม
ไว้...จะกินก็ไม่ค่อยได้กิน...จะนอนก็ไม่ค่อยได้นอน...มัวแต่ใช้ความคิดที่จะหาเงินทองตลอดเวลา...ได้เงินได้
ทองมาแล้วก็เกิดเป็นห่วงทรัพย์สมบัติที่หามาได้อีก...กลัวจะถูกลักขโมย...ถูกปล้น...จิตใจก็เกิดกังวลขึ้น...
เป็นเศรษฐีก็จริงอยู่มีแต่...ความทุกข์...
...ฉะนั้นบุคคลประเภทนี้จึงเป็นบุคคลที่น่าสงสารที่สุด...
|
