top of page

                              บทเรียนโหราศาสตร์

                        ดวงมหาเศรษฐี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

...ดวงชาตานี้เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ ม.ค. ๒๔๙๑ ...

...เวลา ๑๙.๒๕ น.กรุงเทพฯ ลัคนาสถิตราศีสิงห์ เสวยฤกษ์ที่ ๑๑...

...ปุรพผลคุณีแห่งมหัธโนฤกษ์...[ดวงชาตาชาย]...รูปดวงได้ลักษณะดอกพิกุล...

...ถ้ามีดาวเนปจูนอยู่ที่ราศีกันย์...จะครบตามลักษณะดอกพิกุลเต็ม ๑๐๐%เลยทีเดียว...ถ้ามองดูตามที่ท่าน อ.ส.ไชยนันท์กล่าวไว้...ก็จะได้รูป...มงกุฏเพชร...ทันที...นับว่าเป็นดวงที่มีวาสนาสูงเยี่ยมดวงหนึ่ง...เกิดมาสุดแสนสบาย ไม่ต้องทำงานอะไร...ก็มีเงินล้นฟ้า...เพราะมี...ทรัพย์สิน...เงินทอง...ที่ดิน...สมบัติสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ...

 

...ดวงในราศีจักรมีอยู่ ๑๒ เรือนแต่สามารถแตกแขนงจาก ๑ เรือนไปเป็น ๑๒ เรือน...

๑๒ คูณ ๑๒ = ๑๔๔ เรือน...

 

...ดังนั้นในราศีจักรสามารถดูเรื่องราวมนุษย์ได้ ๑๔๔ เรื่อง...ดังนั้นคำที่เรียกกันว่า"ดวงอีแปะ"เห็นว่าไม่ควรจะใช้เรียกอีกแล้วควรจะเรียกว่า"ดวงพิสดาร"มากกว่าซะอีก...แถมยังสามารถเอาลัคนาโลกมา+กับลัคนาคนได้อีก...

 

...ลัคนาโลก[ดวงโลก] ก็คือ...ตั้งจากราศีเมษเป็นลัคนา...ดังนั้นถ้ามีคนมาถามว่า"ลูกคนที่ ๒ ของสามีคนที่๔เมื่อไร จะได้พบกัน?..."ลูกคนที่ ๔...งานของบุตรคนโตฯลฯปัญหาเหล่านี้ตอบได้หมดครับ...จากโหราศาสตร์ไทยเรานี่แหละ...

 

...ลองมาทดลองดูกัน...

 

...ดาว ๑ ตนุลัคน์ไปกุมอยู่กับดาว ๔ กฤุมภะ+ลาภะมีดาว ๒ มหาอุจจ์ตรีโกณและมี...ดาว ๕ โยคหลังซึ่งดาว ๕...

...นอกจากเป็นมหาจักรแล้วยังได้ตำแหน่งเป็น...พฤหัสสี่ทรงศักดิ์แช่มช้อย... [ ปทุมเกณฑ์ ] อีกด้วย...

...ถ้าอ่านผสมกับดวงโลก ดาว๑ ตนุ=ตนุ+ปุตตะและ ดาว๑ ตนุไปอยู่ราศีมังกรเรือนอริ+กัมมะของโลก...

...รวมกันอ่านว่า...

 

...ตนุ+ปุตตะ+อริ+กัมมะ แปลว่า...ตัวเองตั้งแต่วัยเด็กจนถึงสูงวัยไม่เคยทำงานเลย

... [ดาว ๑ อยู่เรือน ๗ = ๑=เด็ก ๗ = แก่ ]

...ดาว ๑ กุม ดาว ๔ กฤุมภะ+ลาภะ แปลว่าเกิดมาก็คาบช้อนเงินช้อนทองมาด้วยแล้ว...

 

...ทีนี้เรามาสืบสาวราวเรื่องดูว่าดาว ๔ นั้นมาจากไหน?...

...ราศีสิงห์เรือนศุภะ[พ่อ]และพันธุ[แม่]มีดาว ๓ เป็นเจ้าเรือนอยู่ทั้ง ๒ เรือน...ดูกันไม่ชัด...คลุมเครือ...

...ต้องดูที่เรือนพ่อ...ตั้งตนุอยู่ที่ราศีพฤศจิก เรือนแม่...มองดูตรงกันข้ามราศีพฤษภกัมมะเป็นปัตนิ [คู่]ของแม่...

...เพราะฉะนั้นราศีพฤษภจึงเป็นเริอนตนุของพ่อทันที...

 

...จากเรือนตนุของพ่อเรือนราศีมิถุนก็ต้องเป็นเรือนกฤุมภะของพ่อ...ดาวเจ้าเรือนคือดาว ๔ ...ซึ่งดาว ๑ ตนุกุม

อยู่ด้วย...ก็เงินของพ่อนั่นเอง...คราวนี้เรามาดูตนุตัวที่ ๒ ของพ่อก็คือ...

...จากราศีพฤษภ...เรือนตนุ=พ่อ...ดาว ๖ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีกุมภ์...ตั้งเป็นตนุตัวที่ ๒ ของพ่อได้เลย...จากเรือนตนุกฤุมภะ...ก็คือราศีมีน มีดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนกฤุมภะ...และดาว ๕ ก็ไปอยู่เรือนพันธุจากลัคนา...

 

...แสดงว่าเงินของพ่อตัวที่ ๒ ก็ไปอยู่เรือนพันธุของลัคนา [เรือนอสังหาริมทรัพย์]...

แต่จากดวงเดิมดาว ๕ คือเจ้าเรือนมรณะมาอยู่ที่เรือนพันธุ=มรณะ+พันธุแปลว่า...

มีฐานะมั่นคงที่ได้มาจากมรดกของบรรพบุรุษ...ดาว ๕ ก็คือกฤุมภะจากดาว ๖ ตนุตัวที่ ๒ ของพ่อนั่นเอง...

 

...ตอนนี้เราลองมาตั้งจากดาว ๑ ตนุที่ราศีมังกรเป็นลัคนาใหม่...ราศีกันย์ก็คือเรือนศุภะ[พ่อ]ของตนุดาว ๑ ...ที่มังกร...ดาว ๔ เป็นเจ้าเรือน...ตั้งที่ราศีกันย์เป็นเรือนตนุของเรือนพ่อ...ราศีตุลย๋ย่อมเป็นเรือนกฤุมภะของพ่อ...

คือดาว ๖...

...ซึ่งดาว ๖ ก็ไปอยู่เรือนกฤุมภะของดาว ๑ ทันที...แปลว่าทรัพย์สินเงินของพ่อก็มาตกมาเป็นสมบัติของตนเอง...

 

...ที่นี้เรามาดูเรือนพันธุ[สมบัติพ่อ]ของพ่อปรากฎว่าดาว ๕ไปเป็นลาภะที่ราศีพฤศจิกของดาว ๑ ตนุลัคน์ก็เท่ากับแปลว่า

...ทรัพย์สมบัติของพ่อก็มาเป็นรายได้ของลูก...ใช่เลย...ยังไม่พอจากดาว ๑ ตนุตัวที่ ๑ อยู่ที่ราศีมังกร...เราก็ตามไปดู

...ดาว ๗ เจ้าเรือนคือ ตนุตัวที่ ๒ ไปอยู่ราศีกรกฏ...ตั้งเป็นลัคนาขึ้นมาอีก ทีนี้ราศีมีนก็เป็นเรือนศุภะ[เรือนพ่อ]ของดาว 

...๗ ตนุตัวที่ ๒...ตั้งลัคนาพ่อขึ้นมา ราศีเมษย่อมเป็นเรือนกฤุมภะของลัคนาพ่อ...ก็คือดาว ๓ เป็นเจ้าเรือน...

...ซึ่งก็ไปอยู่ที่เรือนกฤุมภะของดาว ๗ ตนุตัวที่ ๒ ที่ราศีสิงห์เท่ากับว่าเงินของพ่อก็มาเป็นเงินของตนเองอีก...ยังมีอีก...จากดาว ๗ ตนุตัวที่ ๒ อยู่ที่ราศีกรกฏ...ดาวเจ้าเรือนคือดาว ๒ ไปอยู่ที่ราศีพฤษภ...ตั้งที่นี่เป็นลัคนาของตนุตัวที่ ๓...

...ราศีมังกรย่อมเป็นเรือนศุภะ[เรือนพ่อ]ของดาว ๒ ตนุตัวที่ ๓ ...ทันที...ดังนั้นราศีกุมภ์ย่อมที่จะเป็นเรือนกฤุมภะของเรือนพ่อที่ราศีมังกรอย่างแน่ชัด...ดาว ๐ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีมิถุน...ก็เป็นเรือนกฤุมภะของดาว ๒ ตนุตัวที่ ๓...

...อีกแล้ว...แปลว่าทรัพย์สินเงินทองของพ่อก็มาเป็นของตนเองอีกครั้ง...ไม่หนีไปไหนเลย...

 

...คราวนี้มาดูที่ดาว ๕ ซึ่งได้ตำแหน่งปทุมเกณฑ์ว่ามีความเป็นมาแบบใด...ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือน ปุตตะ+มรณะมาตกที่เรือนพันธุ...อ่านว่าไปเรียน [ ดาว ๕ โยคหลัง ๑+๔ การเรียนในวัยเยาว์ ] ต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่เยาว์วัย...

...ที่ประเทศฝรั่งเศษ...[ดาว ๓ เจ้าเรือนศุภะ...ต่างประเทศเล็งดาว ๖ ฝรั่งเศษเจ้าเรือนกัมมะสถิตอยู่ที่เรือนปัตนิ]...

...ถ้าจะดูให้ชัดขึ้น...ตั้งลัคนาจากดาว ๑ ที่ราศีมังกร เรือนกัมมะและเรือนปุตตะก็คือดาว๖อีกซึ่งหมายถึงการเรียนใน...วัยเด็กที่ประเทศฝรั่งเศษ...จนได้แหละครับ...

 

...ในกรณีฉุกเฉิน...ถ้าคนมาดูดวง...ไม่มีเวลาเกิด...สามารถดูดวงชาตาจากลัคนาโลกได้ครับ...

 

...ตอนนี้เราลองมาอ่านดวงดาวจากลัคนาโลก[ราศีเมษ]...ล้วนๆได้ดังนี้คือ...

...ตนุลัคน์ ดาว ๓ ไปตกเรือนปุตตะ...ราศีสิงห์...

...ดาว ๑ เจัาเริอนปุตตะไปตกเรือนกัมมะ ราศีมังกร...

...ดาว ๗ เจ้าเรือนกัมมะไปตกเรือนพันธุ...ราศีกรกฏ...

...ดาว ๒ เจ้าเรือนพันธุไปตกเรือนกฤุมภะ...ราศีพฤษภ...

...ดาว ๖ เจ้าเรือนกฤุมภะไปตกเรือนลาภะ...ราศีกุมภ์...

...ราหู เจ้าเรือนลาภะไปตกเรือนตนุ...ที่ราศีเมษ...ตกลงเราจะหยุดลงแค่นี้ก่อน...

...เรียบเรียงเรือนต่างๆได้ดังนี้...

...ตนุ+ปุตตะ+กัมมะ+พันธุ+กฤุมภะ+ลาภะ+ตนุ...

 

 

...เจ้าชาตาตั้งแต่เด็ก[ดาว ๑ ]จนโตมาเป็นผู้ใหญ่[ดาว ๗]...ไม่ได้ทำงานที่ไหนเลย...เพราะบรรพบุรุษมีมรดกตกทอดสืบเนื่องกันมาช้านาน...เป็นล่ำสันอยู่แล้ว...เจ้าชาตาเก็บกินดอก...เก็บค่าเช่าที่และรวมทั้งทรัพย์สินมรดกในธนาคาร...ก็มีพอใช้ไปทั้งชาตินี้ ไม่มีวันอับจนอย่างแน่นอน...เมื่อยามละสังขารไปแล้ว...ก็ยังมีทรัพย์สินเลี้ยงดูบุตร...หลาน...เหลนไปได้อีกหลายชั่วคน...

 

 

...แต่ก็อีกแหละครับ...มนุษย์เราไม่ว่า...คนมั่งมี...คนยากไร้...ล้วนต้องมีทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้นตามสภาพของแต่ละบุคคล...

 

...ดูเรื่องความรักและครอบครัวของดวงชาตานี้...จากลัคนาราศีสิงห์ก็มีดาว ๖ เล็งเข้าเกณฑ์พินทุบาทเข้าอีกลองขับดูจากตนุตัวที่ ๑...คือดาว๑ ที่ราศีมังกรก็มีดาว ๗ เล็งเข้ากฏภินทุบาทอีก...ตามไปดูตนุตัวที่ ๒ ที่ราศีกรกฏก็มีดาว ๔ เจ้าเรือนวินาศเล็งอยู๋...ดาว ๖ อยู่ที่ราศีกุมภ์ก็เป็นมรณะกับดาว ๗ ตนุตัวที่ ๒ ซะอีกดาว ๕ เจ้าเรือนอริก็มาตรีโกณร่วมธาตุอีก...แถมยังมี ดาว ๓ กับดาว ๐ บีบหน้า-หลังอยู่อีก...ดาว ๗ นี้ไม่รู้จะไปทางไหนเลยนี่...ดาว ๒ ตนุตัวที่ ๓ หนีไปเป็นอุจจ์ที่ราศีพฤษภก็ไม่รอด...โดนดาว ๕ ซึ่งเดิมเป็นเจ้าเรือนอริอยู่...แปลงร่างกลายเป็นเจ้าเรือนมรณะเข้าไปอีก...

...ส่วนดาว ๖เจ้าเรือนที่ดาว ๒ อุจจ์อาศัยอยู่ก็วิ่งไปอยู่เรือนมรณะของดาว ๗ อีก...เลยไม่รู้จะหนีไปไหนรอดเลย...แบบนี้...บอกได้ว่าเรื่องครอบครัวและเรื่องคู่ครอง...ปวดหัวแน่นอน...ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง...ครับ...วุ่นวายตลอดชีวิต...

 

...ตามประวัติที่แท้จริงของเจ้าชาตา...เป็นลูกชายผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ตอนเด็กๆไปเรียนที่ประเทศ...ฝรั่งเศษ...จวบจนเป็นหนุ่มใหญ่จึงได้กลับมาเมืองไทย...มีภรรยาหลายคน...แต่ไม่ลงตัว...ปวดหัวตลอด...มีแล้วก็เลิกอยู่หลายคน...ส่วนงานไม่ต้องพูดถึง ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น...มีข้าเก่าเต่าเลี้ยงทำแทนให้โดยตลอด...ไปไหนพก

สตังค์ไปไม่กี่พันบาท...มี...รายการจ่ายอะไร...กินเสร็จเดินลุกไปเลย...มีคนคอยจัดการดูแลให้โดยตลอด...เรื่องเก็บค่าที่...ค่าตึกแถวในตลาดฯลฯ...มีคนงานจัดการให้ทั้งสิ้น...เจ้าชาตาดื่มเหล้าบางๆทั้งวัน-ทั้งคืน...มีเหล้าเตรียมพร้อมข้างๆตัวตลอด...แกมีพี่สาวอยู่คน...หนึ่ง...อยู่ในอาณาเขตเดียวกันแต่มีคนละบ้านอยู่ใกล้ๆกัน...เมื่อหลายปีก่อนขายที่ดินแถวๆหัวหินขายไปเล่นๆได้มา......๑๐๐ ล้านแบ่งกับพี่สาวคนละ ๕๐ ล้าน...ส่วนสุขภาพหัวเข่าแกไม่ดี[๗ เป็นประ=หัวเข่า] มีโรคหัวใจเป็นโรคเรื้อรัง...

 

...[ ๑ =หัวใจอยู่เรือนอริลัคน์]...ส่วนรื่องชอบดื่มเหล้านั้นเพราะ ๘ =เหล้า อยู่เรือนศุภะแปลว่า...ฝักไฝ่...เจ้าเรือนศุภะ...ดาว ๓ ยังมากุมลัคน์้อีก...๓ ตรีโกณ ๘ มี๒ อุจจ์นำหน้า ๘=คนชอบดื่มเหล้า...

 

...วันนี้พอก่อนนะครับ...สรุปดวงชาตานี้เป็นมหาเศรษฐี...เป็นคนดีของสังคม...

                       ...เป็นคนที่มีน้ำใจต่อมิตรสหายทั้งปวง...

                       ...โอกาสหน้าพบกันใหม่ครับ...สวัสดี...

 

...บทความของ อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม...

 

 

 

 

bottom of page