top of page

                                          โหราพาเพลิน

 

...ในช่วงเวลาใกล้ ๑๙.๐๐น,เป็นเวลาที่ผมกำลังจะเริ่มบรรเลงบทความต่างๆ บรรจุลงไปในเว็บไซด์ทั้งหลายแหล่...[ ถ้าคงจะมีหลายเว็บไซด์ละซิ ] นั่งหารูปสวยๆบ้าง ค้นดวงชาตาในสมุดบันทึกบ้าง หรือนึกครึ้มเข้าไปที่

Photoshop ทำดวงต่างๆเตรียมไว้ลงเว็บ จิปาถะที่จะทำ เป็นเรื่องธรรมดาของคนมีเกตุกุมลัคน์ ยุ่งทั้งวัน ยุ่งกัน

ไปเรื่อย ไม่จบสิ้น แต่ก็ดีไปอย่างเพราะวันๆนึงเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียวเย็นแล้ว อ้าวค่ำแล้ว เผลอๆ

ไป ปาเข้าไป ๖ โมงเช้าแล้ว แบบนี้ทุกเช้า สาย บ่าย ค่ำและครับ ผมนี่นะ!...

 

...ชีวิตของผมไม่ใช่พึ่งเป็นตอนปัจจุบันนี้หรอก เมื่อสมัยก่อนตอนที่เล่นดนตรี ยังเป็นเด็กเล็กอยู่ก็เบาซะเมื่อไหร่

ตอนพ.ศ.๒๕๑๒ แกะเพลง Spinning wheel ของคณะ Blood Sweet & Tears ฟังกันจนลืมเวลาเลยละ ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกันเลย ได้ผลครับคือ...ผมเป็น " ดีซ่าน " ไปให้หมอฉีดยาเจอเข็มอันเบ้อเร่อ แล้วหมอค่อยๆฉีด...คุยไป ฉีดไป เบ็ดเสร็จ ๑๕ นาทีถึงจะเสร็จ [ เข็ดไปจนตายละ ] คุยไปคุยมา Back to the Past ให้ท่านผู้อ่านฟังซะอีก...เล่าเลยดีกว่า...

 

...คืนนี้เป็น วันที่ ๒๙ ส.ค.๒๕๕๖ วันพฤหัสบดี เวลา ๑๙.๒๐ น.ตกยาม ๕ อ่านยามนาฬิกาจากลัคนาผมได้ว่า...

ลาภะ - กฎุมภะ ...ผมกำลังเลือกดวงชาตาที่จะทำเป็น บทความ+บทเรียน ลงเว็บไซด์อยู่...

 

...ผู้ชาย เกิดวันที่ ๑๙ มิ.ย.๒๔๙๕...เวลา ๐๐.๔๕ น. วันพุธ [ กลางคืน ] แรม ๑๒ ค่ำเดือน ๗ ปีมะโรง...ก.ท.ม.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

...ตกลงก็เลือกดวงนี้ขึ้นมาเป็นดวงลูกศิษย์และเป็นพรรคพวกกันแถมยังเกิดปีเดียวกันอีกซะด้วย [ เข้าท่าดี ]

เป็นคนที่ชอบศึกษาโหราศาสตร์มานานแล้ว ก็มองไปที่ดวง...อ้อ มีดาว ๕ { โหราศาสตร์ ]เป็นศูนย์พาหะ

นำพานี่เอง...แล้วชอบละ...ดาว ๒ เจ้าเรือนภพปุตตะ [รักใคร่ ชอบ ] เป็นมหาจักรไปกุมดาว ๕ ตนุ [เจ้าชาตา ] 

+กัมมะ [ กิจกรรม ] เป็นราชาโชค [ เลื่อมใส ศรัทธา ] เป็นคู่ธาตุ [ เน่นแฟ้น ] ...เอ แสดงว่าชอบโหราศาสตร์จริง

[ ผมพูดในใจ ] ...เคยจำได้ว่าเขาบอกว่า แต่งงานมาไม่เคยเสียขันหมากเลย...ผมก็มองไปที่ดวงเห็น ดาว ๒

กุมกับดาว ๕ = ๒+๕ เป็นคู่ธาตุ [ หนักแน่น ] โคลงกลอนโหรโบราณก็ผลุดขึ้นมาในสมองว่า...๒ กุม ๕ ..

...ปั้นผัวเมียไม่ต้องเสียขันหมาก...

 

...ผมก็เลยเข้าใจถ่องแท้ว่า โคลงกลอนของโบราณนี่ช่างขลังจริงๆ ไม่เคยพลาดเป้า...กำลังจะอ่านดวงต่อ

พอดีเจ้าลูกชายผมชื่อว่า " ภู " เดินผ่านมาทางที่ผมนั่งทำดวงอยู่ ยืนมองดวงอยู่สัก ๕ วินาทีก็ถามว่า...

 

" พ่อ...ดูดวงใครอยู่นะครับ " 

 

ผมตอบว่า " ดวงพรรคพวกกัน พ่อจะเอาไปลงเว็บ "

 

ภูถามขึ้นมาอีกว่า " เอ๊ะ ผมดูๆแล้วดวงนี้เรื่องเงินน่าจะมีปัญหาแน่ๆ เพราะดาว ๓ กฎุมภะเป็นประ [ อ่อน เปราะ ]

[ เจ้าภูมีพื้นฐานโหราศาสตร์อยู่บ้าง ] ผมก็ตอบไปว่า " แกจะไปดูตัวเงินเขาอย่างเดียวมันไม่พอ ก่อนอื่นแกต้องดูว่า ดาว ๕ ตนุ+กัมมะ ไปอยู่กฎุมภะ เป็นราชาโชค อ่านว่า เจ้าชาตาเป็นคนที่แสวงหารายได้อย่างง่ายๆไม่ยุ่งยาก กุม ดาว ๒ เจ้าเรือนภพปุตตะ [ น่ายินดี การเกิดขึ้น ] เป็นมหาจักร [ ฉับพลัน โลดโผน ] แถม ๒+๕ เป็นคู่ธาตุ

[ หนักแน่น เลือดข้น ] แสดงว่ารายรับรายได้เข้ามารวดเร็วไม่ต้องรอนาน...แล้วที่แกว่า ดาวเป็นประไม่ดี คือไปอยู่ราศีตุลย์ภพมรณะ [ ความลับ คนแปลกหน้า เปลี่ยนหน้า ] แกก็ต้องตามดาว ๖ เจ้าเรือนที่ไปอยู่ราศีมิถุนภพ

พันธุ [ มั่นคง รากฐาน ที่ทำงาน ] เป็นเกษตร [ เสมอ ประจำ มาตราฐาน ] อ่านว่า...ในระยะแรกของการทำงานการเงินอาจจะเป็นระบบหมุนเวียน แบบแพะชนแกะ ไปก่อนก็ได้ แตเมื่อทำๆไป ต่อมาก็สามารถรวบรวมเงินทองได้จนมีฐานะมั่นคงเป็นปึกแผ่นได้ในที่สุด "...ผมหยุดพูดคว้าแก้วกาแฟเย็นมาซดเพราะเริ่มคอแห้ง...

 

...เจ้าภูยังไม่ละลดถามมาอีกว่า " อ้าว...ผมราศีสิงห์ ดาว ๖ กัมมะผมเป็นประไปอยู่ที่ราศีเมษ มีดาว ๓ เป็นเกษตรอยู่ แล้วยังมีดาว ๒ มหาจักรกุมอยู่ด้วยเป็น ๒+๓+๖ ทำไมงานปมถึงไม่ค่อยแน่นอนละครับ พ่อ "...

ผมเงยหน้าขึ้นมาแล้วกล่าวว่า " ดาว ๒ แกมาจากเภพวินาสน์ลัคน์ แถมที่ราศีตุลย์ยังมีดาวมฤตยูสถิตอยู่เล็ง

ดาว ๒ ทำร้ายเรือนดาว ๖ กัมมะแกอยู่ทำให้ดาว ๖ ฟื้นยาก ก็เลยเป็นลักษณะว่า แกเป็นคนมีงานทำหลายอย่าง

อยู่ไปทำท่าจะดี ก็เกิดอาเพธ ใจร้อน ของขึ้น ลาออกไปเองซะอย่างนั้น ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? " 

 

...พอฟังคำผมพูดเสร็จ เจ้าภูก็พึ่งถึงบางอ้อ...ยิ้มจืดๆพร้อมกับพึมพัมเบาๆว่า " ที่ีพ่อพูดมา น่าจะจริงนะครับ "

ผมก้มหน้าไปมองที่ดวงอีกแล้วพูดกับภูว่า

 

" เขามีแฟนคนแรกอยู่กันมาร่วม ๑๐-๒๐ ปี มีลูกชายด้วยกัน ๔ คน เอาอะไรมาทายดี ภู "

ภูมองไปที่ดวงแล้วพูดว่า...

 

" ดาว ๑ [ ผู้ชาย ] เป็นปุตตะ [ บุตร } ของลัคนาโลกไปกุม ดาว ๔ เป็นเกษตร ส่วนที่ว่าอยู่กันมานานมีดาว ๗

[ เก่าแก่ นาน ] กุมอยู่ที่ภพปัตนิคนแรก ก็น่าจะทายได้นะพ่อ "

ผมยิ้มแล้วกล่าวว่า...

 

" มันด้วนไปภู เราต้องตั้งภพเป็นลัคนาของคู่คนแรก จะเห็นว่าดาว ๗ที่กุมลัคน์อยู่มาจากภพปุตตะ [ บุตร ]...

ดาว ๔ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีมิถุนภพ กัมมะ [ ผลผลิต ] เป็นเกษตร [ แน่ๆ ] กุมดาว ๑ [ ผู้ชาย ] อยู่ได้คู่วิชาการ

[ แน่ชัด  ตามสูตร ] จึงจะอ่านได้ว่า...คู่คนแรก มีบุตรอยู่ ๔ คนเป็นผู้ชายแน่ชัดไม่ผิดหวังตัวเองแน่ๆ "

ภูพยักหน้าเห็นด้วยกับคำอธิบายของผมผู้เป็นพ่อ...

 

...ส่วนผมยังไม่เลิกราที่จะสอบภูมิลูกชาย [ นานๆได้มีโอกาส ] ถามภูต่อว่า...

 

" แฟนคนที่ ๒ เขามีบุตรสาวอยู่ ๑ คน จะอ่านจากตรงไหนได้ ภู "

 

ภูยิ้มกริ่ม...เหมือนผู้รู้ แล้วรีบตอบออกมาว่า...

 

" คู่คนที่ ๒ ตั้งราศีพฤศจิกเป็นลัคนาของคู่คนที่ ๒ ดาว ๕ ปุตตะ [ บุตร ] ไปอยู่กับดาว ๒ เป็นคู่ธาตุยืนยันว่า

มีลูกสาวแน่นอน " ผมแย็บไปอีกว่า " แล้วที่ว่ามีคนเดียวเอาอะไรทายละ " 

 

พอมาถึงตรงนี้ภูทำหน้ามึน...พึมพัมว่า " จะว่ามี ๑ โยคหน้า ๒ อยู่ก็ไม่เชิง ผมชักงงแล้วพ่อ "

 

ผมก็เลยเฉลยไปว่า...

 

" ที่แกพูดมาก็ถูกอยู่แต่ยังกำกวม...ต้องอธิบายว่า...ดาว ๕ บุตร ไปอยู่กุมกับดาว ๒ ผู้หญิง อยู่ที่เรือนดาว ๓ 

ซึ่งเป็นประ อ่อนกำลัง จึงไม่สามารถมีบุตรคนที่ ๒ ขึ้นมาได้และดาว ๓ ยังปฏิเสธเรื่องการมีบุตรชายด้วย ดาว

๓ มีความหมายถึงผู้ชาย ในเมื่อเป็นประคืออ่อนแอ จึงทำให้มีบุตรชายไม่ได้ ทั้งๆที่คู่คนที่ ๒ อยากมีบุตรชาย

ส่วนเจ้าชาตาอยากมีบุตรสาวเพราะว่า ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนภพ ตนุ [ ตัวเอง ] +กัมมะ [ ผลิตพันธ์ ]ไปกุมดาว ๒

สตรี เป็นคู่ธาตุ [ตั้งใจ ] แสดงว่าอยากมีลูกสาวบ้าง มีลูกชายมามากพอแล้วตั้ง ๔ คน " [ จิตวิทยาประกอบ ]

 

...สรุปว่าผมก็ได้ทำบทความนี้เสร็จสิ้นแถมได้สอนลูกชายไปด้วยในเวลาเดียว นับว่า...

 

...กระสุนนัดเดียวยิงนกได้ ๒ ตัวจริงๆ... [ เป็นปลื้ม...นานๆได้สอนลูก ]

 

...พบกันใหม่ในบทความ+บทเรียน ต่อไปกันนะครับ...สวัสดี...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

bottom of page