top of page

                                        ดาวพฤหัสบดีในตำแหน่งต่างๆ             

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

...ดาว ๕ สถิตอยู่ที่ราศีเมษมีตำแหน่งเป็นราชาโชค...

 

 

...หมายถึง เป็นผู้มีวาสนา มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน มีโอกาสดีๆในชีวิตสูง ประสบความสำเร็จ

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีเมษซึ่งเป็นเรือนเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๓ = ดาว ๕+ดาว ๓ ได้คู่สมพล...

 

...หมายถึง มีพลังงานของชีวิตและมี กิจกรรมที่ประสพความสำเร็จ...

 

...ดาว ๓ [ใบ ] หมายถึง กิจกรรม การกระทำ ความกระตือรือล้น 

 

...ดาว ๕ [ผล ] หมายถึง ความก้าวหน้าในชีวิต ความรุ่งเรืองในอนาคต

 

...รวมกันแปลได้ว่า...

 

...ชีวิตที่รุ่งเรืองและประสบกับความสำเร็จที่ก้าวหน้าได้ในอนาคต 

 

...ถ้านับจากราศีธนู ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ] ...

 

...ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๕ ที่อยู่ราศีเมษก็จะเป็นภพปุตตะ [ ความน่ายินดี การเอาใจใส่ สิ่งที่น่าเบิกบาน ]

 

...นับได้ว่าดาว ๕ ตำแหน่งราชาโชคนี้ดีเด่นขึ้นไปอีกจุดหนึ่ง...

 

...ถ้านับจากราศีมีน ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ]...

 

...ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๕ ที่อยู่ที่ราศีเมษ ก็จะเป็นภพกฎุมภะ [ ทรัพย์  การเจรจา  การได้มา ]

 

...จึงจัดได้ว่า ดาว ๕ ในตำแหน่งราชาโชคนี้ดีขึ้นมาอีกจุดหนึ่ง...

 

...แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ราศีมีนเป็นภพวินาสน์ [ไม่คาดฝัน  ล้มเหลว  ซ่อนเร้น ] ของลัคนาโลกอีกด้วย..

 

...ดังนั้นก็ถือได้ว่ายังมีส่วนเสียหายอยู่ด้วยอีก ๑ จุด...

 

...และถ้าจะให้ดีเลิศ  ก็ต้องไม่เป็นภพ อริ  มรณะ  วินาสน์ ในพื้นดวงชาตาของทั้ง ๑๒ ราศี ในทุกคน...

 

...จึงจะสมบูรณ์และ สมจริงตามตำแหน่งราชาโขค...

 

 

 

..ดาว ๕ สถิตอยู่ที่ราศีพฤษภมีตำแหน่งเป็นจุลจักร...

 

 

...ตำแหน่งจุลจักรหมายถึง...เชื่องช้า  อืดอาด ไม่มีเสน่ห์  อ่อนน้อมถ่อมตน 

 

...ดาว ๕ อยุ่ที่ราศีพฤษภซึ่งเป็นเรือนเกษตร [จ้าของ ] ของดาว ๖ = ดาว ๕+ดาว ๖ ได้คู่ช่วยเหลือ

 

...หมายถึง มีความสำเร็จในเรื่องการแสวงหาทรัพย์...

 

...แปลจากความหมายจุลจักร ได้ว่า การนอบน้อมถ่อมตนทำให้ผู้คนรักและมีคนช่วยเหลือ

 

...ดาว ๕ [ ผล ] ความสามารถ  อนาคตข้างหน้า  ความสำเร็จ

 

...ดาว ๖  ทรัพย์สมบัติ  การได้มา  การแสวงหา

 

...รวมกันแปลได้ว่า ผู้ที่จะอุดมไปด้วยทรัพย์สินเงินทองในกาลข้างหน้า

 

...ถ้านับจากราศีมีน ทีมีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ] ...

 

...ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๕ ที่อยู่ราศีพฤษภก็จะเป้นภพสหัชชะ [ การติดต่อ สังคม  พี่น้อง ]

 

...นับได้ว่าดาว ๕+ดาว ๖ นี้ดีเด่นในเรื่อง จะมีคนรักใคร่ห่วงใย และเอาใจใส่เป็นอย่างดี

 

...และที่ราศีพฤษภเยังเป็นภพ กฎุมภะ [ ทรัพย์ เจรจา ] ของลัคนาโลก...

 

...เมื่อรวมความหมายต่างๆเข้าด้วยกัน ก็จัดว่าตำแหน่งดาว ๕ อยู่ที่ราศีพฤษภนี้ ก็ยังให้คุณอยู่

 

...และต้องไม่ลืมว่า ต้องไม่เป็น ภพอริ  ภพมรณะและภพ วินาสน์ด้วย...จึงจะให้คุณจริง...

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีมิถุนมีตำแหน่งเป็นประ และ อุจจาวิลาศ...

 

 

...ตำแหน่งประหมายถึง...ไม่เข้มแข็ง  มีอุปสรรค  อ่อนแอ  ของคนอื่น  ความผิดหวัง

 

...ตำแหน่งอุจจาวิลาศหมายถึง...เน้นไปในทางมีพลังที่เข้มแข็ง เช่นเป็นพันเอกพิเศษอยู่กำลังจะเขยิบ

 

...ตำแหน่งก้าวขึ้นไปสู่การเป็นนายพล ให้คุณในด้านบุญวาสนา

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีมิถุนซึ่งเป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๔ = ดาว ๕+ดาว ๔ ได้คู่ปัญญา

 

 

...หมายถึง มีความสำเร็จในเรื่อง สมอง ปัญญา ความสามารถ

 

...แปลออกมาได้ว่า ถึงแม้ตัวเองจะไร้อิทธิพล แต่ก็สามารถใช้ปัญญาเอาตัวรอดได้

 

...ถ้านับที่ราศีมีน ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ] ...

 

...ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๕ ที่อยู่ที่ราศีมิถุนก็จะเป็นภพพันธุ [ ความมั่นคง  ปึกแผ่น  ตำแหน่ง ]

 

 

...นับได้ว่าดาว ๕+ดาว ๔ นี้ก็จะดีเด่นในเรื่องการไต่เต้าสู่จุดที่สูงสุดได้จากปัญญาของตนเอง

 

...และที่ราศีมิถุนยังเป็นภพ สหัชชะ [การใช้ปัญญา พรรคพวก การวิ่งเต้น ] ของลัคนาโลก...

 

...รวมความหมายต่างๆเข้ามาประสมกันก็ตอบว่า เป็นตำแหน่งที่ดีเช่นกัน

 

...สุดท้ายก็ต้องไม่เป็นภพอริ  มรณะ และวินาสน์ ด้วย ถึงจะให้คุณได้เต็มที่...

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีกรกฏมีตำแหน่งเป็นอุจจ์...

 

 

...ตำแหน่งอุจจ์หมายถึง...มีพลัง อำนาจ วาสนา ให้คุณให้โทษรุนแรงและรวดเร็ว

 

...ทำให้เป็นผู้มีพลังและอำนาจมีปัญญาลึกล้ำ มองการณ์ไกล มีโชคลาภอยู่เนืองนิตย์

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีกรกฏซึ่งเป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๒ =ดาว ๕+ดาว ๒ ได้คู่ครอบครัว

 

...หมายถึง เป็นคนรักเผ่าพันธุ์  พวกพ้อง  รักบ้าน  รักสัตว์  รักที่จะมีความอบอุ่นในครอบครัว

 

...แปลได้ว่า เป็นคนที่คิดสร้างครอบครัว ฐานะ ความเป็นอยู่ ไม่ให้น้อยหน้าหรือด้อยกว่าผู้อื่นเด็ดขาด

 

...ถ้านับที่ราศีมีน ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ]...

 

...ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๕ ที่สถิตอยู่ที่ราศีกรกฏก็จะเป็นภพ ปุตตะ [น่ายินดี  การเกิดใหม่ ความพอใจ ]

 

...นับได้ว่า ดาว ๕+ดาว ๒ จะดีเด่นในเรื่องการสร้างฐานะให้ตัวเองและเพื่อครอบครัว

 

...และที่ราศีกรกฏยังเป็นภพพันธุ [ ความมั่นคง ปึกแผ่น ] ของลัคนาโลก...

 

...รวมความหมายเข้ามาแล้ว ก็เป็นตำแหน่งที่ดีเลิศมากในดวงชาตาของทุกคน

 

...แต่ในที่นี้ก็ต้องไม่เป็นภพ อริ  มรณะ  วินาสน์ อีกด้วย...ถึงจะให้คุณได้แรงถึงที่สุด...

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีสิงห์มีตำแหน่งเป็นอุจจาภิมุข...

 

 

...ตำแหน่งอุจจาภิมุขหมายถึง...พลังอำนาจที่ลดถอยลง การให้คุณจึงเป็นในลักษณะ "ทุกข์ลาภ"

 

...เปรียบดั่งดุจ นายพลซึ่งครบเกษียณไปแล้ว แต่ก็ยังมีอำนาจ วาสนาแต่ผู้คนยังเคารพและให้ความเกรงใจอยู่...

 

...ซึ่งจะด้อยกว่าตำแหน่งอุจจ์อยู่เล็กน้อย...

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีสิงห์ซึ่งเป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๑ = ดาว ๕+ดาว ๑ ได้คู่มิตร

 

...หมายถึง ความช่วยเหลือ  การร่วมมือ  วัยแห่งความสงบสุข

 

...แปลได้ว่า เป็นคนที่มีความสามารถสูง ทำตัวน่านับถือถึงแม้จะออกจากวงการไปแล้ว ...

 

แต่พวกพ้องก็ยังต้อง...คอยช่วยเหลือ ดูแลเป็นอย่างดีไปโดยตลอด

 

...ถ้านับที่ราศีมีน ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ]

 

...ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๕ ที่สถิตอยู่ราศีสิงห์ก็จะเป็นภพอริ [ ปัญหา  อุปสรรค  ขัดข้อง ]

 

...นับได้ว่า ดาว ๕+ ดาว ๑ จะดีเด่นในเรื่องที่มีมิตรสหายคอยดูแลและเอาใจใส่อยู่เสมอ

 

...และที่ราศีสิงห์ยังเป็นภพ ปุตตะ [น่ายินดี บุตรหลาน บริวาร ] ของลัคนาโลก...

 

...รวมความแล้วแปลได้ว่า เป็นตำแหน่งที่ดี ไม่ตกอับ ลำบาก มีความสามารถสูงเยี่ยม

 

...แต่ก็ต้องไม่เป็นภพ อริ  มรณะ  วินาสน์ เหมือนเข่นเดิม ถึงจะให้คุณได้จริง...

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีกันย์มีตำแหน่งเป็นประ...

 

...ตำแหน่งประหมายถึง...ไม่เข้มแข็ง  มีอุปสรรค  อ่อนแอ  ของคนอื่น  ความผิดหวัง

 

...ยังมีความหมายอื่นอีกเช่น มักจะเกรงใจผู้อื่น  ทำงานเพื่อคนส่วนรวม  ขยันขันแข็ง

 

...ตัวอย่างเช่น คนที่คอยดูแลเอาอกเอาใจคนรัก ชอบช่วยเหลือผู้อื่นหรือทำงานเป็นประโยน์ต่อส่วนรวม

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีกันย์ซึ่งเป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๔ = ดาว ๕+ดาว ๔ ได้คู่มันสมอง

 

...หมายถึง ความรู้ความสามารถที่มีการพัฒนา   ความก้าวหน้าทางสมอง  วิวัฒนาการแผนใหม่

 

...แปลว่าเป็นบุคคลที่ทุ่มเทแรงกาย + แรงใจ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

 

 

...ถ้านับไปที่ราศีมีน ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ]

 

...ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๕ ที่ราศีกันย์ก็จะเป็นภพปัตนิ [แบ่งปัน คนอื่น ส่วนรวม การทำงานร่วม ]

 

...นับได้ว่า ดาว ๕ +ดาว ๔ จะดีเด่นในเรื่องการทุ่มเทแรงงานต่อปวงชนทั้งหลาย

 

...และที่ราศีกันย์ยังเป็นภพอริ [แข็งขัน ขยัน บากบั่น ] ของลัคนาโลก...

 

...สรุปแปลได้ว่า เป็นผู้ที่ทำงานอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม

 

...และก็ต้องไม่เป็นภพ อริ มรณะ วินาสน์ จึงจะให้คุณได้จริงตามตำแหน่งของดาว...

 

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีตุลย์มีตำแหน่งเป็นเทวีโชค...

 

 

...ตำแหน่งเทวีโชคหมายถึง...มีเสน่ห์ในการดึงดูด เป็นที่นิยมแต่จะด้อยกว่าดวงราชาโชคอยู่เล็กน้อย

 

...ยังมีความหมายอื่นอีกว่า...ได้ดีเพราะคู่  มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน มีความอ่อนหวาน

 

...ตัวอย่างเช่น คนที่ด้อยตระกูล หรือตกต่ำ กลับได้แต่งงานกับคู่ผู้สูงศักดิ์ อย่างเหลือเชื่อ

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีตุลย์ซึ่งเป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๖  = ดาว ๕ + ดาว ๖ ได้คู่เกื้อกูล

 

...หมายถึง คนรักผู้สูงศักดิ์  อนาคตที่สดใส  การส่งเสริมจากคู่ครอง

 

...แปลว่า เป็นคนที่ี...แม้ชาติกำเนิดจะต่ำต้อยแต่ก็จะได้คู่ที่มีฐานะสูงส่ง

 

 

...ถ้านับไปที่ราศีธนู ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ]

 

...ตั้งให้เป็นลัคนา ดาว ๕ ที่ราศีตุลย์ ก็จะเป็นภพลาภะ [ โชค ลาภผล ความหวัง  ]

 

...นับได้ว่า ดาว ๕ + ดาว ๖ จะดีเด่นเรื่อง คู่ครอง ๕+๑=๙ [เทวดา ] เทพอุ้มสม...

 

...และที่ราศีตุลย์ยังเป็นภพ ปัตนิ [ คู่ครอง ] ของลัคนาโลก

 

...แปลว่า จะได้ดีเพราะมีคู่อุปถัมภ์ค้ำจุนช่วยเหลือ

 

...และก็ต้องไม่เป็นภพ อริ มรณะ วินาสน์ กับลัคนา ถึงจะให้คุณอย่างแท้จริง

 

...ตำแหน่งเทวีโชค ถ้ากุมลัคน์ในทุกราศีถือว่า "สุดยอด "...

 

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีพฤศจิกมีตำแหน่งเป็นมหาจักร...

 

 

...ตำแหน่งมหาจักรหมายถึง...มีอิทธิพลไปในทางผาดโผน พลิกแพลง พิสดาร ไม่เหมือนใคร

 

...ยังมีความหมายอีกว่า...โลดโผน ฟันฝ่าอุปสรรค  มีเล่ห์เหลี่ยมและไหวพริบดีมาก

 

...ตัวอย่างเช่น คนที่ทำท่าจะล้ม กลับลุกขึ้นมาใหม่ได้อย่างผิดคาด  ไม่คาดฝัน

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีพฤศจิกซึ่งเป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๓ = ดาว ๕ + ดาว ๓ ได้คู่สมพล

 

...หมายถึง ความสำเร็จที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำได้

 

...แปลว่า เป็นนักสู้ที่สามารถทำในสิ่งที่คนอืนทำไม่ค่อยจะได้ กลับทำได้อย่างนอกเหนือกฏเกณฑ์

 

...ถ้านับไปที่ราศีธนู ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ]

 

...ตั้งให้เป็นลัคนา ดาว ๕ ที่ราศีพฤศจิก ก็จะเป็นภพวินาสน์ [ไม่คาดฝัน ]

 

...นับได้ว่า ดาว ๕ + ดาว ๓ จะดีเด่นเรื่องเรื่องไม่คาดคิด พลิกล๊อค  เหลือเชื่อ

 

...และราศีพฤศจิกยังเป็นภพ มรณะ [ การเปลี่ยนแปลง  ดับศูนย์ เกิดใหม่ ] ของลัคนาโลก

 

...แปลว่า เรื่องเหลือเชื่อ ไม่คิดไม่ฝัน ไม่คาดว่าจะเป็นไปได้  เรื่องเหลือเชื่อ

 

...และก็ต้องไม่เป็นภพ อริ มรณะ วินาสน์ อีกเช่นเดิมในทุกราศี...

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีธนูมีตำแหน่งเกษตร...

 

 

...ตำแหน่งเกษตรหมายถึง...เจ้าของบ้าน ความมีฐานะ ความมั่นคง ความมาตราฐาน  ความสมบูรณ์

 

...ยังมีความหมายอีกว่า..ดวงชาตาที่วาสนาสูง มีความสุขสบาย มีหลักประกันที่มั่นคงถาวร

 

...ตัวอย่างเช่น บุคคลที่มีความปึกแผ่นในฐานะ  เสถียรภาพการเงินที่มั่นคง  มรดกจำนวนมหาศาล

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีธนู เป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๕ =ดาว ๕ + ดาว ๕ ได้คู่เกษตรความมั่นคง

 

...หมายถึง ความมั่นคงที่เกิดขึ้นมาอย่างถาวรไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

...แปลว่า บุคคลที่มีความสำเร็จ มีสติปัญญาถ่องแท้ในวัฏสงสาร เป็นผู้ที่มีคุณธรรมและคงแ่ก่เรียน

 

 

...ถ้านับไปที่ราศีธนู ที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ]

 

...ตั้งให้เป็นลัคนา ดาว ๕ ที่ราศีธนูก็จะเป็นภพตนุ [เจ้าชาตา ]

 

...นับได้ว่า ดาว ๕ + ดาว ๕ จะดีเด่นในเรื่องตัวเองสามารถสร้างฐานะได้ด้วยตนเอง

 

 

...และราศีธนูยังเป็นภพ ศุภะ [ความก้าวหน้า ความสำเร็จ  อนาคต ] ของลัคนาโลก

 

...แปลว่า ในอนาคตเจ้าชาตาจะมีความสำเร็จเกิดขึ้นได้จากตนเองอย่างแน่นอน [เกษตร ]

 

...ซึ่งต้องไม่เป็นภพ อริ  มรณะ  วินาสน์ อีกเหมือนเดิม...

 

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีมังกรมีตำแหน่งนิจ...

 

 

...ตำแหน่งนิจหมายถึง...ต่ำต้อย  น้อยนิด  อ่อนแอ  ทรุดโทรม  อ่อนล้า อิดโรย

 

...ยังมีความหมายอีกว่า ...เบื้องล่าง หรือต่ำสุด ถ้าเป็นความหมายเกี่ยวกับจิตใจก็คือ จิตใจต่ำช้า

 

...ตัวอย่างเช่น เจ้าชาตาจะทำสิ่งใดต้องทำจากเล็กๆไปหาใหญ่ๆ และต้องอดทนเฝ้ารอดูสี่งนั้นๆ

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีมังกรเป็น เกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๗ = ดาว ๗ + ๕ ได้คู่ยืดเยื้อ 

 

...หมายถึง...ความพยายามที่จะต้องทำกันในแบบต่อเนื่องยาวนานด้วยความอุตสาหะพากเพียร

 

...แปลว่า บุคคลที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยความพากเพียรและพยายามอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

 

 

...ถ้านับไปที่ราศีธนูที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ]

 

...ตั้งให้เป็นลัคนา ดาว ๕ ที่อยู่ที่ราศีมังกรก็จะเป็นภพ กฎุมภะ [ การเงิน รายได้  การได้มา ]

...นับได้ว่า ดาว ๕ + ดาว ๗จะดีเด่นในเรื่องมีความเพียรในการสร้างฐานะของตนเอง

 

 

...และราศีมังกรยังเป็นภพ กัมมะ [ งาน ภาระ หน้าที่ ] ของลัคนาโลก

 

...แปลว่า เจ้าชาตามีภาระกิจที่จะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวให้สำเร็จ อย่างอดทนและมีความพากเพียร

 

...และต้องไม่เป็นภพ อริ  มรณะ  วินาสน์ ต่อลัคนาของแต่ละราศีนั้นๆ...

 

 

 

 

...ราศีกุมภ์ไม่มี ดาว ๕ มีตำแหน่งอันใด...อาจจะเพราะโหราศาสตร์ถือว่าราหูก็คือ...

 

 

...โลกเรานั่นเอง...กระมัง...จึงไม่ได้บรรจุตำแหน่งของดาว ๕ ที่ราศีกุมภ์ ?...

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีมีนมีตำแหน่งเกษตร [เจ้าของ ]

 

...ตำแหน่งเกษตรหมายถึง...ความอุดมสมบูรณ์  ความเข้มแข็ง  หลักฐาน บ้านช่อง

 

...ยังมีความหมายอีกว่า...ความศรัทธาในพุทธศาสนา  สิ่งที่มองไม่เห็น  จิตวิญญาณ

 

...ตัวอย่างเช่น เจ้าชาตามีความเชื่อในเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เชื่อในพระพุทธเจ้ายึดมั่นอย่างแน่นแฟ้น

 

 

 

...ดาว ๕ อยู่ที่ราศีมีนเป็นเกษตร [เจ้าของ ] ของดาว ๕ = ดาว ๕ + ดาว ๕ คู่เกษตร หนักแน่น...

 

 

...หมายถึง...ความเขื่อมั่นในพระพุทธองค์โดยไม่มี วิจิกิจฉา [ ความสงสัยในธรรม ๘ ประการ ]

 

...แปลว่า บุคคลที่มีเชื่อถือใน กฏที่ว่า...เกิด  แก่  เจ็บ  ตาย...

 

 

...ถ้านับไปที่ราศีธนูที่มีดาว ๕ เป็นเกษตร [เจ้าของ ] 

 

...ตั้งให้เป็นลัคนา ดาว ๕ ที่อยู่ีที่มีนก็จะเป็นภพ พันธุ [ ความมั่นคง  ความศรัทธา  การยึดมั่น ]

 

...นับได้ว่า ดาว ๕ + ดาว ๕ จะดีเด่นในเรื่อง ความศรัทธาในศาสนา  สัญญาลักษณ์แห่งความดีงาม

 

...และราศีมีนยังเป็นภพ วินาสน์ [ สิ่งเร้นลับ มองไม่เห็นด้วยตา จิตวิญญาณ ]

 

...แปลว่า...บุคคลที่มีความเชื่อถือในพระพุทธศาสนาอย่างแนบแน่นและไม่ลังเลสงสัยใน...

 

...พระธรรมคำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้า...

 

 

...ขยายความ...เมื่อกล่าวถึง  การเกิด  การแก่  การเจ็บ  การตาย...หมายถึุงความเป็นไปของสัตว์โลก

 

...ซึ่งเป็นที่ประชุมกันของรูปนามขันธ์ห้า [ จิต  เจตสิก  รูป ] ขันธ์ห้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เป็นผลที่

 

...สืบเนื่องมาจากชาติปางก่อน เพราะชาติก่อนมีเหตุ คือกรรม จึงเป็นปัจจัยทำให้มีการเกิด [ ปฏิสนธิ ]

 

...เมื่อมีความเกิดจึงมี  ความแก่ ความเจ็บ และความตาย เพราะชาติปัจจุบันนี้กระทำเหตุให้เกิดภพใหม่

 

...ต่อไปจึงมีการเกิด แก่ เจ็บ และตาย ในภพต่อไปอีกสืบเนื่องกันอย่างนี้ เพราะมีขันธ์ห้าสืบเนื่องกันเป็น

 

...ไปจึงเรียกว่า สังสารวัฏฏ์  ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาจนบรรลุความเป็นอรหันต์ ชื่อว่าดับเหตุของการ...

 

...เกิดขึ้นในภพใหม่ เรียกว่า...ผู้สิ้นวัฏฏะทุกข์  สิ้นชาติ สิ้นกรรม สิ้นวิบาก...

 

 

...ลองอ่านทบทวนดูให้เกิดความเข้าใจ...สวัสดีครับ...

 

 

bottom of page