top of page

                                  โหราศาสตร์แห่งจักรวาล

...เรื่องราวของชีวิตมนุษย์บนโลกใบนี้ ถูกถอดระหัสจากโค๊ตจักรวาลและแปลเรียบเรียงออกมาเป็นใจความของแต่ละดวงชาตาจาก "โหราศาสตร์"

ซึ่งเป็นวิทยาการเก่าแก่มีมานานคู่กับมนุษย์โลกวิชาหนึ่ง โหราศาสตร์ไม่ใช่วิชาลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเร้นแต่อย่างไร ความยุ่งยาก วุ่นวาย สับสนเกิดจากตำรับ ตำราหรือ ครูบาอาจารย์ผู้สอนนำเอากฏเกณฑ์ที่น่ามึนงง สับสน เอามาใช้กันต่างหาก เอาตำรามาปู้ยี่ปู้ยำ ใช้กันอย่างสะเปะสะปะ

หรือกฏเกณฑ์ต่างๆที่ล้าสมัย ทำให้ผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนต้องเสียเวลาไปเปล่าๆเพราะไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด จำกันไปผิดๆเสียมาก การประสพความสำเร็จจากการเรียนโหราศาสตร์ เกิดขึ้นจากการพยายามจดจำหลักเกณฑ์ที่สำคัญต่างเช่น ทำความเข้าใจกับ ราศีทั้ง ๑๒ ให้ได้ อีกทั้งรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ มี...จักรราศี ดวงดาว เรือนชาตา ภพเรือน ตรีโกณ จตุโกณฑ์ มุมโยค มุมเบียน มุมเล็งฯลฯ

 

...สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ หัวใจของโหราศาสตร์ก็คือ การนำเอา ศาสตร์ ของวิชาการ บรรจุเอา ศิลปะ คือเทคนิค ลีลา ความสอดคล้อง และก็เสริมต่อด้วย สถิติ ต่างๆที่ต้องรวบรวมเอาไว้...ประเด็นสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ...บุคคลนั้นจะต้องมี ญาณ พิเศษในตัวอีกด้วย...

จึงจะครบสูตร "หัวใจของโหราศาสตร์ " อย่างแท้จริง...

 

 

ดวงชาตานี้เป็นนักดนตรีและเป็น

นักโหราศาสตร์ ในเวลาเดียวกัน

ซึ่งเป็นดวงชาตาที่น่าศึกษากัน...

...เป็นดวงซึ่งเล่นดนตรีตั้งแต่เยาว์วัยแต่พอมาวัยกลางคนราวๆ อายุ ๔๒ ปี ก็พลิกผันชีวิตกลับมาศึกษาวิชา...โหราศาสตร์อย่างเอาเป็นเอาตายจนถึงปัจจุบันอายุ ๖๑ ปี...

 

...เป็นดวงชาตาที่น่าศึกษาความเป็นมาของดาวต่างๆในพื้นดวงชาตา...ค้นหามุมมองประเด็นที่ว่า......ทำใมโหราศาสตร์+ดนตรี...

...จึงอยู่ในบุคคลคนเดียวกันได้...

 

 

       วิธีนับวัยของ อ.พลูหลวง

           แบบรวดเร็วภายในในพริบตา

 

   ...ถ้าผู้ที่ถนัดในทางดูที่ดวงชาตา

  ก็ให้ใช้ระบบดูที่ดวงชาตาก็จะเห็น

  ดาวเสวยและดาวแทรกได้ชัดเจน...

 

 ...แรกเริ่มเดิมทีตอนที่ผมศึกษาเรื่องดาวพระเคราะห์เสวยอายุของ...ท่าน อ.พลูหลวง...

 

      ...ในตอนนั้น ...[ พ.ศ.๒๕๓๘ ]

 

ผมเห็นว่าถ้าตอนเวลาดูดวงชาตาคน ถ้าเราต้องดูจากตารางวัย ...

...จะรู้สึกว่ายุ่งยากมากอยู่พอสมควร...

 

...ผมนั่งมองตารางวัยไปเพลินๆ ชั่วภายใน ๑ - ๒ วินาทีในสมองผมก็แว๊บมาว่า ตรงจุดข้อต่อ...

ระหว่างวัยดาว ๖ [ราศีตุลย์ ] จะไปวัยดาว ๓ [ราศีพฤศจิก ] มีข้อต่อในวัย ดาว ๒ และราหู [โลก ]...

 

ถ้าเวลาคนมาดูดวงเรามองจากดวงชาตาของผู้มาดู และนับวัยไปพร้อมกัน จะเร็วกว่าดูตารางแน่นอนก็เลยเช็คว่า..อยู่ในวัยดาวอะไร และดาวอะไรเสวย จากวิธีนี้ปรากฏว่า work และรวดเร็วกว่ามาก สามารถดูวัยไปในระหว่างดูดวงชาตาได้ควบคู่กันไป...

 

 

 

 

 

ดวงชาตานี้คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่

กำเนิดเกิดขึ้นมาบนโลกแห่งนี้ ตลอดชีวิต

จนกระทั่งสิ้นบุญ ไม่เคยทำงานใดๆเลย

 ...ดวงชาตานี้เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ ม.ค. ๒๔๙๑ เวลา 

๑๙.๒๕ น.กรุงเทพฯ ลัคนาสถิตราศีสิงห์ เสวยฤกษ์ที่ ๑๑...

 

...ปุรพผลคุณีแห่งมหัธโนฤกษ์...[ดวงชาตาชาย]...รูปดวงได้ลักษณะดอกพิกุล...ถ้ามีดาวเนปจูนอยู่ที่ราศีกันย์..

.

...จะครบตามลักษณะดอกพิกุลเต็ม ๑๐๐%เลยทีเดียว...ถ้ามองดูตามที่ท่าน อ.ส.ไชยนันท์กล่าวไว้...

 

ก็จะได้รูป...มงกุฏเพชร...ทันที...นับว่าเป็นดวงที่มีวาสนาสูงเยี่ยมดวงหนึ่ง...เกิดมาสุดแสนสบาย ไม่ต้องทำงานอะไร...

 

...ก็มีเงินล้นฟ้า...เพราะมี...ทรัพย์สิน...เงินทอง...ที่ดิน...สมบัติสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ...

 

วิธีนับวัย อ.พลูหลวงแบบทักษา

      ภายในพริบตาเช่นเดียวกัน

 

...ถ้าผู้ที่ถนัดในทางทักษาก็ให้ใช้

ดูจากระบบทักษะ ก็จะสามารถดูได้

อย่างรวดเร็วเช่นกัน...

 

 

...ในเวลาต่อมา...ขณะที่กำลังอ่านหนังสือท่าน อ.พลูหลวงอยู่ ใน

สมองก็แว๊บมาเหมือนเดิม...

 

ในเวลา ๑ - ๒ วินาที ว่า ในเมื่อนับวัยจากการดูที่ดวงชาตาได้แล้ว ถ้านับเป็นในแบบระบบทักษา...ก็น่าจะทำได้...

 

...พอคิดได้ ผมก็รีบหยิบปากกาและกระดาษมาในทันที ลองเขียนเป็นแบบ ๘ ตัวเหมือนทักษาทั่วๆไป...

 

ปรากฏว่าไม่ลงตัว ก็ลองเขียนเพิ่มดาวเนปจูนกับดาวพลูโต รวมเป็น ๑๐ ดวง...

 

...เบ็ดเสร็จเรียบร้อยลงตัวพอดี...

.

 ...ผมก็เลยเผยแพร่ปรากฏมาเป็นภาพดังที่ได้เห็น กันนี่แหละครับ...

 

bottom of page